Saturday, October 12, 2013

เล็กน้อยที่ยิ่งใหญ่ กำลังใจไม่มีที่สิ้นสุด

"ใจ...สู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา โอกาส..ของผู้กล้า ศรัทธา ไม่มีถอย..."

เสียงเพลงดังก้องกังวาน ไปทั่วทั้งห้องอ่านหนังสือในมหาวิทยาลัย
ทันทีที่บทเพลงสั้นๆ จบลง เสียงปรบมือก็ดังกึกก้อง
กอปรกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นบนใบหน้าของคนที่นั่งอยู่ในห้องนั้นทุกคน

วันนี้เป็นหนึ่งในวันที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงมีสอบปลายภาค
เป็นวันที่ห้องอ่านหนังสือจะเต็มไปด้วยเหล่านักศึกษาที่กำลังเคร่งเครียดกับการอ่านหนังสือสอบ

ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง พร้อมกับร้องเพลง "ศรัทธา" ของ หิน เหล็ก ไฟ
บรรยากาศที่เงียบ มีคนหนึ่งคนเดินเข้ามาร้องเพลง จบลงด้วยเสียงปรบมือ
และการจากไปพร้อมกับความสุขเล็กๆ ...เล็กน้อยแต่ยิ่งใหญ่ :)

ไม่รู้ว่าที่อื่นจะมีบรรยากาศแบบนี้ไหม แต่สำหรับที่นี่ เรียกได้ว่า เป็นเรื่องปกติดีกว่า
เพราะไปทุกครั้ง ก็จะมีโอกาสได้ฟังเพลงเพราะๆ แบบนี้ทุกครั้งไป

เคยคิดว่า เอ๊ะ เป็นคนบ้าหรือเปล่า คนปกติที่ไหนจะกล้ามาร้องเพลงบ้าบอต่อหน้าคนเยอะแยะแบบนี้
...และเหมือนเป็นการให้เกียรติ
ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องนั้น ก็จะต้องปรบมือทุกครั้งที่ผู้มอบเสียงเพลง ร้องเพลงจบ

วันนี้ก็เช่นเดียวกัน นัดเพื่อนไปคุยงาน คุยเสร็จไปแล้วหนึ่งคน แล้วก็ต้องออกไปหาเพื่อนอีกคนหนึ่ง
กำลังเก็บกระเป๋า ชายคนนี้ก็เดินเข้ามาร้องเพลงให้ฟัง

ปกติก็รู้สึกเฉยๆ แต่วันนี้ เป็นวันที่ทุกคนมาทำหน้าที่ของตัวเอง หน้าที่ "นักศึกษา"
คนๆ นี้เข้ามาเป็น "ผู้มอบกำลังใจ" ทั้งๆ ที่ เขาและพวกเขา ไม่น่าจะรู้จักกัน
เราเชื่อว่า นักศึกษาเหล่านั้น คงได้รับกำลังใจไปมากโขเลยล่ะ

พอเดินออกมา ก็รู้สึกเหมือนต้องมนต์อีกครั้ง
ชายคนนี้กำลังร้องเพลง ให้กับนักศึกษากลุ่มที่นั่งอยู่ด้านนอกฟังอีกครั้ง
ด้วยเพลงๆ เดียวกันนี้ และครั้งนี้ เราได้ยินมันชัดเจนขึ้น...

ชัดเจนทั้งความไพเราะ ชัดเจนทั้งความรู้สึก
เราเพ่งมองไปที่ชายคนนี้ จดจำรายละเอียดด้วยสายตา (เพราะไม่กล้าหยิบกล้องมาถ่ายรูป)

เขาเป็นผู้ชาย เราว่าเขาเป็นผู้ชาย... ใส่ถุงเท้าดึงขึ้นสูงแบบไม่พับ รองเท้าผ้าใบ ชุดสายเดี่ยวน่ารักๆ แบบเด็กๆ
บนหัวมีที่คาดผมอันใหญ่ยักษ์สีชมพู ในมือถือป้าย... ที่เราได้เห็นตอนเขาหันมาทางเรา

ป้ายนั้นเขียนว่า "ลูกพ่อขุนสู้ๆ" ...เป็นป้ายที่ติดสติ๊กเกอร์มาอย่างดี
เป็นป้ายที่ดูแล้วตั้งใจทำ เรามองเห็นถึงความตั้งใจ

ทันทีที่ชายคนนี้ร้องเพลงจบ นักศึกษาโดยรอบก็ปรบมือให้กับเขา เสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณนั้น
ชายคนนั้นโค้งขอบคุณด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ยิ้มอย่างจริงใจ...

ทุกสายตามองไปที่เขา เราก็ด้วย แต่สิ่งที่เราสังเกตคือ...
ในมือชายคนนี้ ไม่ได้ถือกล่องรับบริจาคใดๆ ทั้งสิ้น

เขาไม่ได้มาขอ แต่เขามาให้...
ให้ความรู้สึกดีๆ ให้รอยยิ้ม ให้กำลังใจ ให้ความสุข...

เราเผลอเดินตามผู้ชายคนนี้ไป ด้วยความรู้สึกชื่นชม
เดินออกนอกเส้นทางที่เราจะไปไว้เยอะ ด้วยความอยากรู้ว่า
เขาจะไปมอบกำลังใจให้กับใครอีกหรือเปล่านะ

แต่ก็ดึงตัวเองกลับมาได้ ว่าแกจะเดินไปไหวเหรอ แดดร้อนมากนะ
ก็เลยปล่อยชายคนนั้นไป...


จากเหตุการณ์วันนี้ ทำให้เรารู้ว่า...

สังคมมนุษย์ มันยังไม่ได้แย่อย่างที่เราคิด
ท่ามกลางสังคมที่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย
ท่ามกลางสังคมที่ทุกคนแก่งแย่งชิงดี
ท่ามกลางสังคมที่เราหาความจริงใจได้ยาก


เขาอาจจะเป็นคนที่ได้ผลประโยชน์จากครั้งนี้
เขาอาจจะเป็นคนของกลุ่มนักศึกษาที่หวังผลจากการเลือกตั้ง
หรือเขาอาจจะเป็นคนบ้า...แต่ถ้าพี่บ้าแล้วร้องเพลงเพราะขนาดนี้
พี่ไปประกวด The Voice เถอะ...

แต่เชื่อไหม... สิ่งที่เขาได้ มันได้ไปมากกว่านั้น...สิ่งที่เขาให้ มันมีคุณค่ามหาศาล
วันนี้ได้เข้าไปเป็นผู้รับ เป็นผู้รับยังโคตรสุขใจ พี่เป็นผู้ให้ คงสุขใจโคตรๆ แน่ๆ เลย

แล้วเราเป็นได้ขนาดไหน เราทำได้เท่าเขาไหม
ทำอะไรต้องมีศรัทธา... อย่าท้อถอยกับอะไรง่ายๆ
มองดูคนรอบข้าง เขาอาจจะดีกว่าเรา หรือเขาอาจจะแย่กว่าเรา
เอามันมาเป็นกำลังใจ...แล้วก้าวต่อไปนะ เราเอาใจช่วย :)

"ใจ...สู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา โอกาส..ของผู้กล้า ศรัทธา ไม่มีถอย..."

No comments:

Post a Comment