Saturday, October 5, 2013

ทฤษฎี 4x100

...ห่างหายจากการเขียน  blog ไปนานเลย
ดึกดื่นคืนนี้ อารมณ์เปลี่ยว ถือโอกาสดีที่จะได้แชร์ความคิดเห็นกัน :)

ทฤษฎี 4x100 เป็นทฤษฎีของใคร หรือเคยมีคนใช้มาก่อนหรือไม่ เราไม่รู้
แต่สิ่งที่จะกล่าวต่อไปใน blog นี้ เราจะขอทึกทักเอาว่าเราเป็นคนคิดเอง
ไม่สิ... เราแค่ลองมองเปรียบเทียบกับชีวิตตอนนี้ดู ก็เท่านั้นเอง

เราเข้าใจความหมายของ 4x100 กันมากแค่ไหน?
แน่นอน มันเป็นระยะทางการวิ่งผลัดประเภทหนึ่ง

อ้อ... ก่อนจะไปไกล เรามีเรื่องจะโม้ ว่าเราเคยเป็นนักวิ่งด้วยนะ
นักวิ่งของโรงเรียนเลยล่ะ อย่าดูถูกคนเตี้ยม่อต้อขาสั้นคนนี้โดยเด็ดขาด
ปารัชญ์ ไม่ธรรมดานะ จะบอกให้ 555+

สืบเนื่องจากการเคยเป็นนักวิ่งสมัยเด็ก ๆ
ทำให้เราเข้าใจอะไรๆ ได้มากขึ้น เมื่อเราได้มาใช้ชีวิตในแบบผู้ใหญ่

การวิ่ง 4x100 ก็คือการวิ่งที่มีนักกีฬา 4 คน วิ่งผลัดส่งไม้ต่อกันเป็นระยะทางรวม 400 เมตร
400 เมตรก็เท่ากับ 1 รอบสนามฟุตบอลพอดี
แต่ละลู่วิ่งนั้น ก็จะมีจุดสตาร์ทที่ต่างกัน
- คนที่อยู่ลู่ในสุด ก็จะได้สตาร์ทในจุดที่ดูเหมือนจะรั้งท้ายสุด
- คนที่อยู่ลู่นอกสุด ก็จะได้สตาร์ทในจุดที่ดูเหมือนจะใกล้ที่สุด
แต่จริงๆ แล้ว ทุกอย่างถูกออกแบบมาตามความเหมาะสม
และคำนึงถึงความได้เปรียบเสียเปรียบแล้ว มันก็แค่ดูเหมือนจะเร็ว ดูเหมือนจะนำ แต่จริงๆ ไม่ใช่...
โดยส่วนตัว ชอบอยู่ลู่วิ่งกลางๆ คือ ลู่ที่ 4-5 มากกว่า

เท่าที่จำความได้ เรามักจะถูกเลือกให้อยู่ในตำแหน่งไม้ 1 หรือ ไม้ 4 บ่อยๆ
ถามว่า... แต่ละตำแหน่งมีความสำคัญต่างกันมั้ย
ตอบได้เลยว่า สำคัญทุกตำแหน่ง สำหรับการทำงานเป็นทีม
แต่ตอนนั้น ต้องยอมรับเลยว่า ออกจะภูมิใจอยู่มากเลยทีเดียว

เพราะหลงคิดไปว่า...

การที่เราอยู่ไม้ 1 นั่นหมายความว่า เราดีพอที่จะนำคนอื่นตั้งแต่เริ่มแรก
การที่เราได้อยู่ไม้สุดท้าย ผู้ที่จะเป็นคนตัดสินว่า เราจะชนะหรือไม่
หมายความว่า ถ้าเพื่อนทำมาไม่ดี หน้าที่ของเรา คือวิ่งแซงคนอื่นเข้าเส้นชัยให้ได้
และในอีกแง่หนึ่ง หากเพื่อน 3 คน วิ่งนำคนอื่นได้มาก ภาระของเราก็จะลดน้อยลง

แล้วไม้ 2 และไม้ 3 ล่ะ ...ไม่สำคัญเหรอ?
ณ ตอนนั้น เราไม่รู้จริงๆ เพราะเราไม่เคยสัมผัสกับตำแหน่งนั้น
รู้แต่ว่า ถ้าได้อยู่ไม้ 1 ก็ได้ใช่แท่นสตาร์ทที่อีก 3 คนไม่ได้ใช้
ถ้าได้อยู่ไม้ 4 ก็จะได้ดีใจถ้าวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก

แต่ตอนนี้เราเริ่มเห็นความสำคัญของพวกเขาแล้วล่ะ

การรับส่งไม้ เป็นอีก 1 ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อการแพ้ชนะของทีมได้เลย
หลายๆ ทีม มุ่งมั่นในการซ้อมรับส่งไม้อย่างหนัก
รับส่งไม้ยังไงไม่ให้ฟาล์ว รับส่งไม้ยังไงไม่ให้ไม้ตก รับส่งไม้ยังไงให้ใช้เวลาน้อยที่สุด

พอจะมองภาพของทีมนักวิ่ง 4x100 ชัดเจนขึ้นไหม?

ภาพตัดกลับมาในชีวิตการเรียนและการทำงาน

ทุกวันนี้เราต้องทำงานร่วมกับคนอื่นไหม?
เราได้รับความร่วมมือ หรือให้ความร่วมมือกับคนอื่นๆ เต็มที่แล้วหรือยัง?
เรามองเห็นเป้าหมาย เรามองเห็นเส้นชัยเหมือนกันหรือเปล่า?

หากเป้าหมายของคนในทีม คือ เส้นชัย คือ ชัยชนะ
แต่สำหรับบางคน กลับไม่ใช่ ...เขาไม่มีเป้าหมาย หรือเขาไม่เห็นความสำคัญของการทำตามเป้าหมาย?
เราก็มิอาจทราบได้ แต่สิ่งสำคัญคือ การขาดความสามัคคี ทีมอาจจะไม่ล่ม
แต่มันก็ไม่ดีอย่างที่มันควรจะเป็น...

ตัดภาพกลับไปที่สนามวิ่ง 4x100
ไม้ 1 เป็นผู้เล่นที่มีความเร็วเป็นอันดับ 2 ในทีม ได้รับความไว้วางใจให้ทำความเร็วในช่วงแรก
ส่งต่อให้ไม้ 2 ซึ่งมีความแม่นยำในการรับส่งไม้ แต่ฝีเท้าไม่เร็วนัก
ส่งต่อให้ไม้ 3 ซึ่งถูกทีมอื่นแซงไปเยอะแล้ว และถอดใจคิดว่ายังไงก็แพ้ ค่อยๆ วิ่งไปเรื่อยๆ
ส่งต่อให้ไม้สุดท้าย... ทันใดนั้น ไม้ตก! แต่โชคดี ไม่ถึงกับฟาล์ว เก็บไม้มาส่งต่อได้

คำถามคือ... สภาพทีมที่เป็นแบบนี้ ไม้ 4 ที่ perfect ที่สุดใน 3 โลก จะแบกรับภาระนั้นไหวไหม?
เทียบกับทีมอื่นๆ ที่มีความสามัคคีกัน ทำในส่วนของตัวเองอย่างเต็มที่ ไม่ถอดใจ
คำตอบก็คือ... ต่อให้เราจะติด 1 ใน 3 จากการสปีดของไม้สุดท้าย เราก็พูดคำว่าชนะได้ไม่เต็มปาก

สิ่งที่เราพยายามจะบอกก็คือ
ความผิดพลาดบางอย่าง อาจจะเกิดจากความมุ่งมั่นที่เรามีไม่เท่ากัน หรือ เป้าหมายที่ต่างกัน
แต่เมื่อเรามาอยู่ในทีมเดียวกัน การไม่ปล่อยให้คนใดคนหนึ่งต้องแบกรับภาระหนัก เป็นสิ่งที่เราควรทำ
...ควรทำเป็นอย่างยิ่ง

เฉกเช่น ในชีวิตการเรียน หรือแม้กระทั่งการทำงาน
บางครั้งการนิ่งเฉยเสมือนหนึ่งคุณเป็นตัวสำรอง คอยรับเหรียญพร้อมทีม โดยไม่ช่วยอะไรเลย
ไม่แม้แต่จะให้กำลังใจ หรือยื่นน้ำให้เมื่อเพื่อนเหนื่อย ...เชื่อเถอะ ว่าเพื่อนคุณเจ็บมาก
อย่าคิดว่าตัวเองทำไม่ได้ ก็เลยไม่ทำ
อย่าคิดว่าเพียงแค่ไม้ 4 ไม้เดียว จะแซงคนอื่นที่วิ่งสะสมมาเกือบรอบสนามได้
อยากให้ลองเปลี่ยนมุมมองเสียใหม่

ที่เราไม่ทำ เพราะคิดว่ายังไงก็ต้องมีคนทำ อย่างนั้นเหรอ?
ที่เราไม่เคยถาม เพราะคิดว่ายังไง คนที่ทำมันก็ต้องทำให้เสร็จอยู่ดี อย่างนั้นเหรอ?
เมื่อร่วมทีมกันแล้ว... อย่าทิ้งเพื่อน อย่าเอาภาระไปให้เพื่อนแบกอยู่ฝ่ายเดียว

ภาระ มันจะสบายขึ้น เมื่อทุกคนช่วยกันแบ่งเบา ...เชื่อเรานะ
สิ่งเดียวที่อยากจะขอ... อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะให้ทุกๆ คนที่ผ่านเข้ามา มาทำกับเราแบบนี้ทุกคนไป
บางทีมันก็เหนื่อย เหนื่อยมากๆ กับสิ่งที่ต้องคอยแบก แบกโดยไม่มีใครแบ่ง ให้มันเบา...

ในสนามวิ่งตอนนั้น

กีฬาสี ส่วนใหญ่เราก็ได้ที่ 1 เหรียญทองเต็มบ้าน
จนได้เป็นตัวแทนไปแข่งกีฬาจังหวัดอยู่ปีนึง ผลเป็นไงรู้ไหม?

ถ้าวิ่งคนเดียว 100 เมตร เข้าเป็นอันดับรองสุดท้าย
ถ้าวิ่งผลัด 4x100 เมตร ...เข้าเป็นอันดับสุดท้าย

...เห็นไหมว่า ต่อให้เราคิดว่าเราเก่ง เราดีแล้ว ก็ยังมีคนที่เก่งกว่าเรา ทำได้ดีกว่าเรา
ถ้าไม่พยายาม แล้วจะไปสู้คนอื่นเขาได้ยังไง

...สุดท้าย ปารัชญ์ก็จบชีวิตการเป็นนักวิ่ง ด้วยการถูกตัดออกจากทีม
เพราะ "เป็นไข้หวัดใหญ่" จนขาดซ้อมไป 3 วัน

บางครั้ง โชคชะตาก็เล่นตลกกับเรานะ
ทั้งๆ ที่เรามีโอกาสจะแก้ตัว ทั้งๆ ที่เราพยายามเต็มที่แล้ว
มันก็อาจจะไม่เป็นอย่างที่เราหวังได้ทุกอย่าง...

ถึงตอนนี้ เป็นไปได้ไหม... ที่เราจะเป็นหนึ่งในทีมวิ่ง 4x100 ที่ดีที่สุดที่จะเข้าเส้นชัยเป็นลำดับแรก
ทั้งในสนาม และ "ในชีวิตจริง"


06/09/2013 "ปารัชญ์"




No comments:

Post a Comment