Friday, September 4, 2015

Freelance ห้ามป่วย.. ห้ามพัก.. ห้ามรักหมอ.. เป็นหนัง Mass? (สปอยล์หนัก จะดูไม่ต้องอ่าน)

หลังจากเมื่อวานไปดูมา มีแต่คนถามว่า หนังสนุกมั้ย?
ตอบได้ไม่เต็มปาก ไม่ใช่เพราะสนุกหรือไม่สนุก
แต่เพราะเค้าพูดกันว่า อย่าสปอยล์เลย เพราะคำตอบมันคือการสปอยล์แน่ๆ
ก็เลยตอบแบบกลางๆ ไป แต่ที่นี่ ตรงนี้ Blog เรา เราจะสปอยล์ ฮ่าๆๆๆๆ

ไม่ใช่แค่หนังให้อะไร แต่เป็นคนดูได้อะไรจากหนังต่างหาก
นี่คงจะเป็นจุดประสงค์หลักๆ ของหนังเรื่องนี้
เราทำงานหนักเกินไปรึเปล่า เรากลัวความตายรึเปล่า เราดูแลครอบครัวดีพอรึยัง
แล้วเราคิดว่าเรามีความสุขแล้วใช่ไหม...

ยี่ห้อ GTH, ซันนี่, ใหม่ ดาวิกา -- หนังรักแน่ๆ
แต่ผิด เรื่องนี้อินดี้ และ เป็นหนังชีวิตโดยแท้
อย่างที่หลายๆ คนพูดว่า หนังเต๋อก็ยังเป็นหนังเต๋อ ลายเซ็นยังชัดเจน
ดีตรงที่หนังเรื่องนี้ ได้ GTH ช่วยขยายกลุ่มคนดู และ Tie In โฆษณาในหนังเยอะมาก

หนังไม่ได้ Feel Good สไตล์ GTH ฉะนั้น คอหนัง GTH อาจจะไม่ชอบก็ได้
แต่คุณอาจจะได้อะไรกลับไปมากกว่านั้น เชื่อเถอะ

หนังเดินเรื่องผ่านความคิดในหัวของ ยุ่น (ซันนี่) ซึ่งเป็นกราฟฟิคดีไซน์ฟรีแลนซ์
อดหลับอดนอนทำงานให้ทัน deadline
โดยไม่ได้สนใจร่างกายที่มันพยายามร้องบอกว่ากูไม่ไหวแล้วนะ
สัญญาณเริ่มต้นด้วยผื่นที่ขึ้นเพียงไม่กี่เม็ด จนทนไม่ไหว ต้องไปหาหมอโรงพยาบาลเอกชน
โดนค่ายาไปพอๆ กับงานๆ หนึ่งที่เพิ่งได้เช็คมา
ก็เลยไม่ไหว ยอมไปต่อคิวตรวจที่โรงพยาบาลรัฐ
นั่นล่ะ ก็ได้เจอกับนางเอก หรือ หมออิม

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

เทียบกับเรื่องอื่นๆ ของ GTH เรื่องนี้คงสู้ไม่ไหว
แต่มีฉากประทับใจ ที่ตลกร้าย ตลกแบบดาร์คๆ ที่ช่วยให้รู้สึกว่าไม่เสียเงินที่ไปดู

งานฟรีแลนซ์ - โอกาสมาต้องคว้า แย่งชิงเพื่อให้มีที่ยืน

มือรีทัชฝีมือดี แต่เมื่อต้องรักษาโรคผื่น คำสั่งของหมอคือ
1. งดอาหารทะเล 2. กินยาก่อนนอน 3.ออกกำลังกาย 4. นอนก่อน 3 ทุ่ม
มันตัดทางทำมาหากินชัดๆ เมื่อทำไปแบบฝืนๆ ครึ่งๆ กลางๆ
งานไม่เต็มที่ โรคไม่หาย แต่พอจะจริงจัง ตัดใจจากงานที่ตัวเองเคยตั้งใจทำมากๆ
เห็นจุดผิดเพียงนิดเดียว แอบกังวลว่าลูกค้าคงไม่เห็น 3 ทุ่มก็ต้องนอนแล้ว ก็เลยปล่อยผ่านไป

สุดท้าย เจ๋ (วี  วิโอเลต) ซึ่งเป็นคนรับงานมาให้ ดันเห็นเข้า เลยให้น้องอีกคนแก้งานให้
มันก็เหมือนหยามกันอ่ะเนอะ กลัวคนอื่นจะมาแย่งที่ยืน
สุดท้ายก็ไอ้นี่แหละ ได้งานทั้งหมดของยุ่นไป

ก็น่าคิดนะ
ว่าคนเราจะยอมอดหลับอดนอน ทำร้ายร่างกายตัวเองได้ขนาดนี้
ยุ่นอดนอนได้นานขึ้นเรื่อยๆ โดยตั้งขีดจำกัดของตัวเองจากการอดนอนครั้งล่าสุด
เคยอดนอนได้ 2 คืน พอถึงจุดหนึ่ง ก็จะทำได้มากกว่าเดิม เหมือนเล่นเกมผ่าน level
ผ่านด่านมาได้ ก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว
จนช่วงสุดท้าย หลังจากเบรคจากงานไปนาน
ใครมาหลอกเสนองานให้ก็รับหมด เพราะอยากเป็นที่ยอมรับ อยากก้าวหน้าในงาน
งานที่คิดว่าตัวเองรัก ทำได้ดี และมีความสุขที่ได้ทำมันจริงๆ

ครั้งสุดท้าย ยุ่น อดนอนได้ถึง 12 วัน....


ใกล้ความตาย

ชอบความรู้สึกตัวเองตอนดูฉากนี้มากๆ เคยคิดถึงงานศพตัวเองอยู่บ่อยๆ
รู้สึกว่า เฮ้ยแม่งใช่ว่ะ แอบน้ำตาไหลด้วย

หลังจากอดนอน 12 วัน ร่างกายมันเริ่มไม่ไหวจริงๆ ผื่นขึ้นหนักกว่าเดิม
ที่เพิ่มเติมคือ ความคิดในหัวยุ่น เริ่มคิดไปแล้วว่าตัวเองกำลังจะตาย
ล้มวูบใส่ขอบโต๊ะ... แล้วก็มโนถึงงานศพตัวเอง
...เอาแล้วไง พระเอกตาย แล้วนางเอกอ่ะ เหยยยย ยังไม่ได้รักกันเลย
หนังโหดว่ะ โปรโมทเป็นหนังรัก แต่พระเอกตาย โอยยยยยย

ยุ่นเริ่มคิดถึงหลายๆ อย่างที่ตัวเองยังไม่ได้ทำ นึกถึงสภาพตัวเองตอนจะตาย
สภาพห้องรกๆ แบบนี้เหรอวะ ภาพสุดท้ายก่อนตาย
นึกถึงงานศพของตัวเอง สงสัยว่าทำไมงานศพต้องไปจัดที่วัด
...จัดในห้องนี้เลยไม่ได้เหรอ แล้วไม่ต้องมีพระสวดได้มั้ย
ชอบฟัง TK มาก อยากให้ TK มาร้องเพลงผ้าเช็ดหน้าในงานศพ (แล้ว TK ก็มาจริง)
ส่วนแขกที่จะเชิญมา ก็มี 1. 2. 3. 4. >> 4 คน แค่นี้เหรอวะ ทำไมน้อยจัง

เพื่อนสนิท

หนึ่งในแขกที่ยุ่นเชิญมา คือ พงศธร เพื่อนสมัยประถม
คนที่ยุ่นเรียกว่าเป็นเพื่อนสนิท ถ้าจำทีเซอร์หนังได้
มันจะมีฉากงานศพ ที่ยุ่นต้องหา wifi เพื่อส่งงานด่วน
ซึ่งก็คือฉากงานศพของพ่อพงศธร...

ก่อนไป ยุ่นถาม deadline งานกับเจ๋ ว่าเลทสุดได้เมื่อไหร่
ต้องไปงานศพเพื่อนสนิท เจ๋ถามว่าสนิทมากมั้ย ...ก็สนิทมาก รู้จักตั้งแต่สมัยประถม
เจ๋ถามต่อ แล้วเจอกันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ...จำไม่ได้ว่ะ
เจ๋สรุป งั้นเรียกว่าไม่สนิท ใส่ซองไป 2 พันก็พอ อยู่ทำงาน
สุดท้าย ยุ่นก็ดื้อไปจนได้

พี้คสุดก็คงเป็นฉากที่ยุ่นคุยโทรศัพท์ หน้าคอม ที่เสียบปลั๊ก
...อยู่ข้างโลงศพ ของพ่อ เพื่อนสนิทของยุ่น
พงศธร พูดมาประโยคนึง อย่างเจ็บเลย
"งานศพกู ถ้ามึงไม่ว่าง มึงไม่ต้องมาก็ได้นะ"

แต่งานศพตัวเอง ยุ่นก็ยังอุตส่าห์ชวน พงศธร ไปจนได้...

ครอบครัว

แขกอีกคนในงานศพของยุ่น ก็คือ แม่
ในเรื่องไม่ได้พูดถึงแม่มากนัก จะมีก็แต่รูปถ่ายเก่าๆ ที่แม่ส่งมาให้ยุ่นรีทัชให้
พร้อมกับโทรมาทวงว่าทำให้หรือยัง ...จนวันที่ตัวเองจะตาย
ก็เลยนึกได้ ว่าลืมรีทัชรูปให้แม่ ...ทำงานให้คนอื่นแทบตาย
เหนื่อยแทบตาย แต่กลับหลงลืมคนในครอบครัว

เพื่อนแท้

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้! แขกในงานศพยังเหลืออีก 2 คน
คนแรก "ไก่" เป็นพนักงานเซเว่นกะดึก ที่ยุ่นมาซื้อขนมจีบกุ้งบ่อยๆ
จนสนิทกัน มีอะไรก็มาปรึกษาไก่ แม้แต่ตอนที่หมอสั่งให้ออกกำลังกาย
ยุ่นบอกว่าตัวเองชอบตีแบต แต่ไม่มีเพื่อนตี
ก็ยังถือไม้แบตมา 2 อัน มาเรียกไก่ไปตีแบตด้วยหน้าเซเว่น
เออฉากนี้ฮาจริง มีการด่าด้วย ว่าอย่าตีโยก เหนื่อย วิ่งไม่ไหว
คาแรคเตอร์ตัวนี้ ดูเป็นเพื่อนที่ไม่ได้เป็นเพื่อนอ่ะ
คือดูรู้ว่าเป็นเพื่อน ...งงมะ 55 แต่ยุ่นก็เชิญไก่ไปงานศพตัวเองนะ

อีกคนคือ "เจ๋" คาแรคเตอร์เท่ดีนะ หลายๆ คนคงชอบ
ดูแล้วน่าจะเป็นคนที่เข้าใจยุ่นมากที่สุด
แอบเชียร์ให้เป็นนางเอกมากกว่าหมออิมอีกอ่ะ
ตอนแรกเดาว่า เจ๋ต้องชอบยุ่นแน่ๆ แต่คิดไปคิดมา สภาพนี้ไม่น่าจะชอบลง
ตอนหลังปรากฎว่า เจ๋ก็ไม่ได้อยู่ดูงานให้ยุ่น
เพราะว่า บังเอิญท้อง แฟนก็เลยขอแต่งงาน
แต่สุดท้าย...เจ๋ก็เป็นคนแรก ที่กลับมาหายุ่น ในวันที่ยุ่น...

ฟื้นจากความตาย

นั่นไง หลอกให้ร้องไห้ แล้วแม่งก็ไม่ตาย คุณหลอกดาวววว
เล่าเพิ่มอีกนิด งานที่ยุ่นได้กลับมาทำหลังจากหยุดไปนาน
เป็นงานของพี่ที่รู้จักกัน ดูเหมือนเป็นมิตรในตอนแรก
แต่ก็เอางานที่ไม่ถึงกับด่วนมาก มาให้ยุ่นทำ โดยมี deadline แค่ 2 อาทิตย์
ซึ่งเจ๋ก็โทรมาเตือนแล้วว่า ไปรับมาทำไม เค้าหลอกใช้ไม่รู้เหรอ

...ก็เนี่ยแหละ ดื้อทำจนน็อค
แต่ก็ได้พี่คนนี้แหละ พาไปโรงพยาบาล พร้อมหอบคอมฯ ไปให้ถึงเตียงคนป่วย
เพื่อให้ทำงานต่อให้เสร็จ เลวแบบใสๆ อ่ะ

ความรัก

หลังจากทุกคนเข้าใจว่ามันเป็นหนังรัก พูดถึงเรื่องความรักบ้างดีกว่า

...พูดไม่ออกอ่ะ ไม่อินกับความรักเลยจริงๆ
ไม่ได้รู้สึกว่าพระเอก-นางเอกรักกัน
จบแบบให้คิดเอาเองด้วยว่าต่อไปจะเป็นยังไง
ขี้เกียจคิดอ่ะ เอาเป็นว่า...

สำหรับคนที่คิดว่าจะเข้าไปดูหนังรัก อาจจะผิดหวังมาก
การเจอกันเดือนละ 1 ครั้งในห้องตรวจ
ถ้าจะเรียกมันว่าความรัก ก็คงเป็นความรักแบบอึนๆ มาก

//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ถ้าไม่แปะ logo GTH ...เราว่ามันก็หนังน้ำดีนอกกระแสเรื่องนึงเลยล่ะ
แต่เพราะเป็น GTH มันเหมือนเป็นการบังคับว่าต้องดู
แล้วก็พากันออกมาผิดหวังว่า หลอกให้ไปดูหนังอะไรก็ไม่รู้
เอาน่ะ อย่างน้อยคนที่ได้ดูแล้วก็น่าจะคิดได้ว่า

เราทำงานจนลืมดูแลตัวเอง ทำร้ายร่างกายตัวเองจนเกินไปรึเปล่า
เราดูแลครอบครัวเราดีพอแล้วรึยัง จะต้องนึกออกว่าลืมทำอะไรให้ในวันที่ตัวเองตายแล้วรึเปล่า
เรามีเพื่อนที่เราเรียกได้ว่า เป็นเพื่อนสนิทจริงๆ กี่คนกัน
กี่คนที่จะไปงานศพเราได้อย่างเต็มใจ
กี่คนกันที่พร้อมจะอยู่ข้างๆ เรา ในวันที่เราไม่มีใคร

เพราะไม่รู้จักความรักรึเปล่า เราถึงไม่ดูแลตัวเอง เพราะไม่รู้จักรัก เลยไม่ดูแลคนรอบข้าง

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า... อย่าทำงานแบบถวายหัว อู้บ้าง ไปเที่ยวบ้าง พักผ่อนบ้าง
ระวังตายไปแล้วจะไม่ได้ใช้เงินที่หามานะ... เราเตือนแล้ว เราหวังดี :)


สวัสดี Freelance



2 comments:

  1. อ่านแล้วนะ ชอบอ่ะ :)

    ReplyDelete
  2. This is really nice to read content of this blog. A is very extensive and vast knowledgeable platform has been given by this blog. I really appreciate this blog to has such kind of educational knowledge.ออกแบบ Logo

    ReplyDelete