...มันผ่านมาแล้ว
ก็แค่เรื่องธรรมดาที่เราได้เห็น และมันติดตา ติดใจ...
เย็นหลังเลิกงานวันหนึ่ง ขึ้นรถเมล์ร้อนเพื่อไปเรียน
คนก็ไม่ถือว่าแน่นมาก แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ได้นั่งนะ
มีแม่ลูกคู่หนึ่งขึ้นรถเมล์มา แล้วก็ไม่มีที่นั่ง
ลูกใส่ชุดเนตรนารีเสนาสีเขียว ก็น่าจะ ป.5-ป.6 ไม่แน่ใจ
ด้วยความที่เค้าคงจะลงในอีกไม่กี่ป้าย
หรือด้วยอะไรก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครลุกให้เค้านั่ง
ก็เลยยืนอยู่ตรงประตูกันทั้งแม่ลูก
ผ่านไปซัก 2 ป้าย ปรากฎว่า เด็กมีอาการเหมือนจะเป็นลม
แม่ก็เลยพยุงตัวลูกไว้ ผู้หญิงที่นั่งตรงนั้นก็เลยต้องลุกให้เด็กนั่ง (อย่างเสียไม่ได้)
แม่เด็กก็แกะผ้าพันคอ แล้วก็ปลดกระดุมคอออก
กระเป๋ารถเมล์ก็กุลีกุจอหายาดมมาให้
ผู้หญิงคนข้างๆก็ช่วยเอาชีทที่พกมาพัดให้
ผู้หญิงคนข้างหลังก็ช่วยบีบๆนวดๆให้
แล้วก็ถึงป้ายที่แม่ลูกคู่นี้จะลงรถเมล์
มีผู้ชายคนหนึ่งมากดกริ่งเตรียมลง
แม่ก็เตรียมพยุงลูกให้ลุกขึ้นเพื่อจะลงรถเมล์
แล้วก็หันมาพูดกับคนรอบข้างว่า "ขอบคุณนะคะ"
แล้วผู้ชายคนนั้นก็อุ้มเด็กผู้หญิงลงจากรถเมล์
...เราเชื่อว่า ต้องมีคำว่า "ขอบคุณนะคะ" ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
ที่ป้ายรถเมล์นั้น จากแม่ของเด็กหญิง สู่ชายมีน้ำใจคนนั้น
...ก็แค่เรื่องธรรมดา แต่รู้สึกดีที่ได้เห็น
หนึ่งเรื่องดีๆ ที่สังคมไทยยังพอมีอยู่บ้าง
อิ่ม :)
No comments:
Post a Comment