Sunday, October 30, 2011

Mission Possible 31-10-2011 อาจารย์ในร้านคุกกี้ ตอน " ความปลอดภัย ไม่เคยทำให้ใคร เติบโต"

อีกหนึ่งงานเขียนของ "นิ้วกลม" ที่ตกหลุมรัก จนเก็บเอาไว้คนเดียวไม่ได้...

"อาจารย์ในร้านคุกกี้" เป็นความเรียง ที่อ่านแล้ว มีความสุข สุขกับสิ่งที่นิ้วกลมพยายามสื่อ เพื่อให้กำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจ ในการใช้ชีวิต เคยอ่านหนังสือแล้วยิ้มไหม...? อ่านไป แล้วยิ้มไปกับบางตอนของหนังสือ และบ่อยครั้ง ที่ต้องหัวเราะออกมา หัวเราะน้อย ๆ ที่เราจำคำจำกัดความของลักษณะการหัวเราะแบบนี้ไม่ได้ว่าเรียกว่าอะไร(สงสัยต้องกลับไปเปิดคัมภีร์คลังคำ สมัยเรียนวิชาแปลเสียแล้วล่ะ)

หลายบท หลายตอน ที่อ่านแล้ว ต้องตะโกนในใจว่า "เออ จริงด้วยว่ะ!" หนึ่งในนั้นก็คือตอนนี้...

" ความปลอดภัย ไม่เคยทำให้ใคร เติบโต"

นิ้วกลม บอกว่า เขาว่ายน้ำไม่เป็น (เหมือนเราเลยแฮะ) ที่ว่ายไม่เป็นนั้น ก็เพราะว่าไม่มีเวลาหัดเมื่อครั้งยังเด็ก เขาจึงต้องหัดว่ายน้ำอยู่แค่ในกะละมัง เมื่อร่างกายเติบโตกว่ากะละมัง ก็เป็นอันต้องโบกมือลา

เขานึกเรื่องนี้ขึ้น ขณะคุยกับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่เซี่ยงไฮ้ เขาถามเพื่อนเขาว่า มั่นใจรึยัง กับงานใหม่ เธอตอบไปว่า จะมั่นใจได้ยังไง รู้แต่ว่า มันตื่นเต้น ท้าทายดี ทำงานก็อย่างนี้แหละ "อย่าเอาตัวเองไปไว้ในที่ปลอดภัย ถ้ารู้สึกว่าปลอดภัยเมื่อไหร่ เมื่อนั้นเราจะเริ่มนิ่ง หยุดพัฒนา แต่ถ้าทำได้ มันน่าภูมิใจ นายมาที่นี่ก็เหมือนถูกจับโยนลงน้ำ ว่ายไม่เป็นก็ต้องว่าย ไม่ว่ายก็ตาย ตอนนี้นายก็ว่ายเป็นแล้วเห็นไหม...?"

ก็เหมือนสระว่ายน้ำ..มีทั้งความสนุกและอันตราย อันตรายสำหรับคนว่ายน้ำไม่เป็น สนุกสำหรับคนว่ายเป็น...

เขาคิดว่า ช่วงเวลาที่สนุกที่สุด คือช่วงหัดว่าย ต้องตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอด ห้วงเวลาสำคัญคือ ตอนที่ยืนอยู่ขอบสระ จะหันหลังหรือจะโดด?

อยากได้ลูกเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือฉันใด อยากว่ายน้ำเป็น ก็ต้องโดดลงน้ำฉันนั้น...

ถ้าตอนเด็กๆเขาตัดสินใจโดดลงน้ำ ก็คงดำผุดดำว่ายได้อย่างสบายใจ "แต่ทุกวันนี้ เขาจึงยังต้องนั่งแช่อยู่ในกะละมัง"


...แล้วทำไมเล็กถึงว่ายน้ำไม่เป็น...? นั่นสิ ทำไม ทำไม ก็พ่อแม่นั่นแหละ ไม่ยอมหัดให้ว่าย..(นั่น รำไม่ดีโทษปี่โทษกลองอีก) เอาเป็นว่าตอนนี้ว่ายไม่เป็นละกันนะ

ผลของการว่ายน้ำไม่เป็น คือการไม่ได้รับอนุญาตให้ไปเที่ยวสมุย ทั้งๆที่ใช้ชีวิตอยู่ที่สุราษฎร์มากว่าครึ่งชีวิต... อายเขาไหมล่ะ? ตอนนี้ไม่อายแล้ว 555+
ผลของการว่ายน้ำไม่เป็น... นอกจากไม่เคยไปสมุยแล้ว จะไปเที่ยวไหน ก็ไม่ค่อยได้ไป... เอ๊ะ มันเกี่ยวกับการว่ายน้ำไม่เป็นรึเปล่านะ...?

เวลาจะไปเที่ยวทีไร ต้องหนี หนีที่ว่าคือ ไปก่อน แล้วค่อยบอก แต่ทุกครั้งที่หนี เหมือนแม่จะมี sense ทุกทีเลย รู้เองโดยไม่ต้องบอก...จนบัดนี้ก็ยังสงสัย ว่าแม่รู้ได้ไง...สุดยอดจริงๆ

พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ชวนให้นึกถึงสมัยเรียนมัธยมอยู่สุราษฎร์ เพื่อนๆเค้าได้ไปโน่นไปนี่ ตระเวนติวหนังสือ ไปค่ายโน่นนี่เยอะแยะ แล้วเล็กล่ะ...แม่ไม่ให้ไปจ๊ะ ...น่าเศร้าป่ะล่ะ! จนเพื่อนๆก็เป็นห่วง ว่าถึงเวลาจริงๆแล้ว เล็กจะอยู่ได้มั้ย เข้ามาอยู่กรุงเทพฯ จะไปไหนมาไหนเป็นมั้ย ...ก็ได้แต่ปลอบใจตัวเอง ต้องอยู่ได้แหละน่า ยังไงก็ต้องโดดลงน้ำ มันต้องลองตะเกียกตะกายล่ะว่ะ เกิดมาทั้งที คงไม่ตายง่ายๆหรอก...แล้วอยู่ได้มั้ย...? อยู่ได้ ตายมั้ย...? ก็ไม่ตาย ก็แค่...ยังว่ายไม่คล่อง แต่ก็ไม่จมนะ...

นอกจากว่ายน้ำไม่เป็นแล้ว เล็กก็ยัง "ขี่มอ'ไซค์" , "ขับรถยนต์" ไม่เป็นอีกต่างหาก... คราวนี้ไม่โทษใครแล้ว โทษตัวเองล้วนๆ แต่ เอ๊ะ...ไม่โทษดีกว่า จะโทษทำไม ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย... ทำไมถึงไม่เป็น...? ก็ไม่อยากเป็น ไม่หัด เขาให้หัดก็ไม่หัด เหตุผลก็คือ รู้สึกว่า เครื่องยนต์เป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ ไม่เหมือนจักรยาน เราควบคุมมันได้ด้วยสองมือสองเท้าของเราเอง จะเป็นจะตายก็ตายด้วยอวัยวะของตัวเอง คิดอย่างนี้จริงๆ ตอนนี้ก็ยังคิดอยู่... ถามว่าไม่เป็นแล้วมันลำบากมั้ย ตอนนี้ตอบได้เลยว่า ไม่หนิ จะไปไหนก็บอกพ่อสิ เดี๋ยวพ่อก็ไปส่ง ถ้าพ่อไม่อยู่ ก็รถเมล์ รถตุ๊กๆไง ไม่เห็นยาก... อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เชื่อว่าชาตินี้คงไม่มีปัญญามีรถเป็นของตัวเอง หัดไปก็ไม่ได้ขับ จะหัดไปทำเพื่อ...?

มานึกถึงตอนหัดขี่จักรยานแล้ว ก็สนุกนะตอนนั้น ตอนเด็กๆ จักรยานต้องมี 4 ล้อ เจ้า 2 ล้อเล็กๆ มันน่ารักนะว่ามั้ย...? มันทำให้เราแกร่ง เราเป็น คอยประคองไม่ให้เราล้ม จะปั่นเร็ว แค่ไหนก็ได้ ก็เพียงแค่ เราจะแพ้จักรยาน 2 ล้อ ของเพื่อนที่แกร่งกว่า แค่นั้นเอง... เมื่อเราเริ่มทรงตัวได้ เราก็ได้มีจักรยาน 2 ล้อ กับเขาบ้าง...มันก็คันเดิมนั่นแหละ แต่เจ้า 2 ล้อ มันยอมสละตัวเองออก ให้เราแกร่งสู้คนอื่นได้ ยิ่งโตขึ้น จักรยานของเราก็คันใหญ่ขึ้น ยิ่งวงล้อใหญ่เท่าไหร่ เรายิ่งไปได้ไกล แต่ถ้าวงล้อใหญ่เกินตัว "เราจะล้ม" นี่คือความจริง จริงๆนะ...

ถึงตอนนี้ เราจะว่ายน้ำไม่เป็น ขี่มอ'ไซค์ไม่เป็น ขับรถยนต์่ไม่เป็น...ทั้งหมดนี้ "เราเลือกเอง" นับว่าเราอยู่ในจุดปลอดภัยที่ไม่ปลอดภัยเอาเสียเลย... พี่นิ้วบอกว่า ความปลอดภัยไม่เคยทำให้ใครเติบโต ...ก็ใช่นะ เรายังไม่โต แต่ไม่ใช่ไม่โต เราแค่โตช้ากว่าคนอื่น เดินช้ากว่าคนอื่น แค่นั้นเอง... ก็จังหวะชีวิตเราเป็นแบบนี้ เราก็เลยไม่รีบ :)

No comments:

Post a Comment